มินิ ประเทศไทย ส่งความแรงเต็มพิกัดสู่แฟนๆ ชาวไทย ด้วยการเปิดตัว MINI John Cooper Works GP ใหม่ รถซับคอมแพ็กต์แฮทช์แบคที่เร็วแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ โดยประเทศไทยได้โควต้ามาเพียง 30 คันเท่านั้น จาก 3,000 คันทั่วโลก ในราคา 4.2 ล้านบาท
เริ่มจากไฮไลท์ John Cooper Works GP ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo เจเนอเรชั่นล่าสุด ให้กำลังสูงสุด 306 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ส่งกำลังไปยังล้อหน้าด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ Steptronic แบบ 8 สปีด ทำอัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ภายใน 5.2 วินาที และท็อปสปีด 265 กม.ต่อชม.
สิ่งหนึ่งที่เครื่องยนต์สมรรถนะสูงขาดไม่ได้คือระบบการควบคุมอุณหภูมิที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งระบบระบายความร้อนของ John Cooper Works GP ใหม่ ได้รับการออกแบบบนพื้นฐานของรถแข่งอย่างแท้จริง มาพร้อมหม้อน้ำ 2 ช่องสำหรับหล่อเย็นให้กับเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง มีถังพักน้ำหล่อเย็นขนาดใหญ่ขึ้น ระบบเก็บน้ำยาหล่อเย็นที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ
อีกทั้งยังมีพัดลมไฟฟ้าช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานเพื่อควบคุมอุณหภูมิของเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมตลอดเวลา แม้ขณะบรรทุกน้ำหนักมากหรือขณะขับขี่แบบสปอร์ตสุดขั้ว
ระบบช่วงล่างมาพร้อมอีกมิติของการขับขี่สไตล์โกคาร์ทด้วยการพัฒนาด้านหลักจลนศาสตร์ของล้อและเพลา เสริมความคล่องตัวด้วยฐานล้อที่กว้างขึ้นและตัวรถที่ต่ำลง 10 มม. เมื่อเทียบกับ John Cooper Works รุ่นอื่นๆ อีกทั้งยังพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวถัง ระบบเบรกแบบสปอร์ต พร้อมคาลิเปอร์เบรกแบบตายตัว 4 ลูกสูบที่ล้อหน้า และคาลิเปอร์เบรกลูกสูบเดี่ยวแบบลอยที่ล้อหลัง
ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) มาพร้อมโหมด GP ที่สามารถเริ่มใช้งานได้เพียงเปิดสวิตช์ โดยจะช่วยเพิ่มเสถียรภาพระหว่างระบบเบรกและระบบการควบคุมเครื่องยนต์ ทำงานควบคู่กับระบบล็อคเฟืองท้ายแบบ mechanical เพื่อรองรับการควบคุมที่ฉับไวยิ่งขึ้น ซึ่งสวิตช์ที่ใช้ควบคุมระบบเสถียรภาพการขับขี่ ยังสามารถใช้ปิดระบบ DSC ได้อีกด้วย
ดีไซน์ภายนอกได้รับการออกแบบมาเพื่อชูความสมมาตรระหว่างหลักอากาศพลศาสตร์และการไหลเวียนของอากาศเพื่อระบายความร้อนในเครื่องยนต์และระบบเบรก โดดเด่นด้วยสปอยเลอร์บนหลังคาแบบปีกคู่ พ่วงกับดีไซน์กระโปรงหน้าแบบ Blackband และขอบสปอยเลอร์หน้า ที่ทำงานร่วมกันในการลดแรงยก ทำให้แรงยกบริเวณซุ้มล้อหน้าและซุ้มล้อหลังลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับ John Cooper Works รุ่นอื่น ๆ
ลักษณะดีไซน์อันโดดเด่นยังรวมถึงซุ้มล้อที่กว้างออก และช่องดักลมด้านข้างตัวรถ โดยวัสดุที่ใช้บริเวณซุ้มล้อ ประกอบไปด้วยโครงสร้างเทอร์โมพลาสติกด้านใน ผสานคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านนอก (CFRP) นอกจากนี้ยังได้มีการพิมพ์หมายเลขลำดับการผลิต และล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้ว
ภายในห้องโดยมาในรูปแบบ 2 ที่นั่ง มีเบาะหนังแท้ Dinamica แบบสปอร์ตตัดขอบด้วยสีเงินตัดกับตะเข็บสีแดง ตกแต่งด้วยตรา GP ด้านล่างพนักพิงศีรษะและสายเข็มขัดสีแดง แผงคอนโซลบริเวณที่นั่งผู้โดยสารมีเลขแสดงลำดับการผลิต พวงมาลัยดีไซน์สปอร์ตหุ้มด้วยวัสดุหนังแท้ nappa ตัดกับตะเข็บสีแดง แป้นเปลี่ยนเกียร์ด้านหลังพวงมาลัยขึ้นรูปด้วยเทคโนโลยีพิมพ์แบบสามมิติ
ในบริเวณห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีดำเป็นหลัก เพิ่มสีสันด้วยโลโก้ GP สีแดงบนพื้นพรมและลายเส้นคู่บนหัวเกียร์ รวมทั้งโครงเหล็กอลูมิเนียมด้านหลังเบาะที่นั่งในสีแดง Chili Red ซึ่งได้รับการติดตั้งเพื่อป้องกันสัมภาระจากหลังรถไหลลื่นมาด้านหน้าในกรณีที่เบรกกระทันหัน
ระบบความบันเทิงมาพร้อมระบบ MINI Connected เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แสดงผลผ่านหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว พร้อมแผงหน้าปัดดิจิทัลความละเอียดสูงขนาด 5 นิ้ว แสดงความเร็วในการขับขี่ทั้งแบบตัวเลขและเข็มวัด รวมทั้งแสดงผลการขับขี่ในโหมด GP ทั้งแบบชั่วคราวและถาวร
MINI John Cooper Works GP ใหม่ ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว 5 คันแรก จากโควต้าทั้งหมด 30 คัน สนนราคา 4,200,000 บาท ซึ่งรวมถึงแพ็คเกจพิเศษ MSI 10/100 ครอบคลุมระยะเวลาบำรุงรักษา 10 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และการรับประกัน 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง และสำหรับอีก 25 คัน จะพร้อมส่งมอบภายในปี 2563