หากพูดถึงรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติอังกฤษ ชื่อของ Triumph ต้องถูกพูดถึงเป็นชื่อแรกๆอย่างแน่นอน และในปี 2022 นี้ถือได้ว่าครบรอบ 120 ปีของการเดินทางอันแสนยาวนานของแบรนด์มอเตอร์ไซค์สุดคลาสสิคนี้ เราจะมาทุกท่านไปย้อนรอยประวัติศาสตร์ของไทรอัมพ์ ว่าพวกเขาต้องประสบพบเจอและผ่านเหตุการณ์สำคัญๆของโลกอะไรมาบ้าง !!
จุดเริ่มต้นของ Triumph คือธุรกิจขายรถจักรยาน !!
ใครจะไปเชื่อว่าแบรนด์มอเตอร์ไซค์สุดคลาสิกจากเกาะอังกฤษจะมีจุดเริ่มต้นจากการขายจักรยาน ซึ่งมันถูกก่อตั้งโดย Siegfried Bettmann ชายผู้อพยพมาจากเมือง Nuremberg ประเทศเยอรมนี ก่อนที่ต่อมาภายหลังจะมีการพัฒนาและได้ใส่เครื่องยนต์ลงในจักรยานครั้งแรกในปี 1902 และนี่ถือได้ว่าเป็นจัดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ 120 ปี ของไทรอัมพ์
เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 ในฐานะผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร
ไทรอัมพ์ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์หลักสำหรับกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตร โดยในระหว่างปี (1915-1918) พวกเขาได้ส่งมอบรถ Triumph Model H กว่า 30,000 คันให้กับทหารในทั่วทุกสมรภูมิ โดยมันถูกใช้สำหรับการสื่อสารระหว่างแนวหน้ากับกองบัญชาการ ซึ่งในยุคนั้นนิยมใช้ม้าและคนขี่ม้าในการส่งสาร ซึ่งการเปลี่ยนมาใช้รถจักรยานยนต์นั้นถือว่ามีความสะดวกเป็นอย่างมาก
ก้าวสู่บริษัทผู้ผลิตจักรยานยนต์และรถยนต์รายใหญ่ของสหราชอาณาจักร
ในช่วงปี 1920 ไทรอัมพ์ได้กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถจักรยานยนต์และรถยนต์รายใหญ่ของสหราชอาณาจักร ด้วยโรงงานขนาด 46,000 ตร.ม. ที่สามารถผลิตรถจักรยานยนต์และรถยนต์ได้มากถึง 30,000 คันในแต่ละปี ไทรอัมพ์ยังพบว่ารถจักรยานยนต์ของพวกเขามีความต้องการในต่างประเทศ และการส่งออกก็กลายเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัท
เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 ในฐานะผู้ผลิต แม้โรงงานโดยทิ้งระเบิดยับจากฝ่ายเยอรมนี
ในช่วงปี 1940s สหราชอาณาจักรเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกครั้ง และไทรอัมพ์ก็ยังคงเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ส่งให้กองทัพเช่นเคย แต่ทว่าคราวนี้โรงงานผลิตของพวกเขาในเมือง Coventry ถูกเครื่องบินทิ้งระเบิดโจมตีจนพังไม่เหลือซาก จึงได้ย้ายฐานการผลิตมาที่ Warwick ซึ่งพวกเขาใช้โรงหล่อเก่าแห่งหนึ่งเป็นโณงงานผลิตแห่งใหม่ และได้ส่งมอบ Triumph 3HW กว่า 40,000 คันให้กับกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตร
1960s – 1970s Triumph โดนแบรนด์มอเตอร์ไซค์จากญี่ปุ่นเล่นงาน
ถึงแม้ว่าไทรอัมพ์ ถือได้ว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ชาวอังกฤษภาคภูมิใจ แต่กลับมาผู้เล่นใหม่อย่าง Honda Yamaha และ Kawasaki เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาด ซึ่งผู้ผลิตจากแดนปลาดิบเน้นทำรถขนาดเล็กที่ขับขี่ได้ง่ายและมีราคาถูกกว่า รวมถึงมีการวางระบบสายการผลิตที่ดีกว่า ทำให้ในช่วงนี้ไทรอัมพ์ประสบปัญหาขาดทุนหนักพอสมควร
1983 ไทรอัมพ์ล้มละลาย และนี่คือจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่จนถึงปัจจุบัน
หลังจากเจอปัญหาสะสมในช่วงปี 60s-70s ในที่สุดในปี 1983 ไทรอัมพ์ก็อยู่ในสถานะล้มละลาย ก่อนที่มหาเศรษฐีรายหนึ่งนามว่า John Bloor ได้เข้ามาซื้อกิจการ โดยเขาได้ทุ่มเงินไปราวๆ 100 ล้านปอนด์ ในสร้างโรงงานแห่งใหม่ในพื้นที่ราวๆ 25 ไร่ในเมือง Hinckley ทางภาคกลางของอังกฤษ
เข้าสู่ช่วงปี 2000 สถานการณ์ของบริษัทดีขึ้น และเริ่มก่อตั้งโรงงานในประเทศไทย
หลังจากใช้เวลาเกือบ 20 ปี ไทรอัมพ์ก็พลิกฟื้นสถานการณ์กลับมาสดใสได้อีกครั้ง และพวกเขายังได้ตั้งโรงงานผลิตนอกประเทศอังกฤษเป็นครั้งแรก ซึ่งพวกเขาเลือก ประเทศไทย เป็นที่ตั้งโรงงานใหม่ โดยได้มีการขยายโรงงานถึง 2 ครั้งในภายหลัง
สไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์แสดงให้เห็นถึงสไตล์ต้นแบบของวงการรถจักรยานยนต์ เริ่มต้นตั้งแต่รูปโฉมที่โดดเด่นเหนือกาลเวลาของ Bonneville จนถึงรุ่น TR6 ที่ Steve McQueen ตำนานแห่งวงการภาพยนตร์ใช้การขี่เหินข้ามรั้วลวดหนามในภาพยนตร์ The Great Escape และ Thunderbird 6T ที่ดารานักแสดงชาวอเมริกัน Marlon Brando ได้ขี่ปรากฎตัวสุดยิ่งใหญ่ในภาพยนตร์ The Wild One ไล่เรียงมาที่ Speed Triple จนถึง Bobber และ Tiger ที่ล้วนมาพร้อมความโดดเด่นสะดุดตาในยุคปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลในทุกส่วนของวงการรถจักรยานยนต์ในแบบที่ไม่มีแบรนด์ใดทำได้มาก่อน
ด้านรุ่นรถจักรยานยนต์ที่เป็นไอคอนของไทรอัมพ์ ส่วนหนึ่งมาจากชื่อที่โด่งดังในวงการรถจักรยานยนต์ เช่น Bonneville T120 ซึ่งถูกตั้งขึ้นตามเครื่องยนต์สูบคู่ ระบบเชื้อเพลิงเมทานอลของไทรอัมพ์ซึ่งใช้ในจรวด Streamliner เจ้าของสถิติความเร็ว ณ Bonneville salt flats ส่วน Hurricane X75 ได้รับการยอมรับว่าเป็นรถคัสตอมจากโรงงานรุ่นแรกของโลก อีกทั้ง Speed Twin ผลงานชิ้นเอกของ Edward Turner ซึ่งปฏิรูปวงการรถจักรยานยนต์ ไปจนถึง Daytona 675 สุดยอดรถแข่งสำหรับรายการซูเปอร์สปอร์ตของไทรอัมพ์ หรือจะเป็นScrambler 1200 ซึ่งพลิกโฉมวงการและยังเป็นรถคู่ใจของสายลับระดับโลกอย่าง James Bond
สำหรับใครที่บอกว่าไทรอัมพ์ผลิตแต่รถคลาสสิก ไม่มีเทคโนโลยีที่น่าสนใจ คุณคิดผิด เพราะไทรอัมพ์ก็มีรถสปอร์ตเน็กเก็ตตัวแรงอย่าง Street Triple 765 ที่มาพร้อมกับขุมพลัง 3 สูบอันเลื่องชื่อ และเครื่องยนต์ตัวนี้ถูกนำไปใช้ในการแข่งขันระดับโลก Moto2 อีกด้วย รวมถึงยังได้มีการใส่เทคโนโลยีความปลอดภัยและตัวช่วยการขับขี่อย่างเหนือชั้น
สำหรับในประเทศไทย “ไทรอัมพ์” ถือได้ว่าเป็นแบรนด์รถบิ๊กไบค์ที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยดีไซน์ของตัวรถที่โดดเด่น สมรรถนะที่โดดเด่น เทคโนโลยีที่อัดแน่น เครื่องยนต์ที่ใครได้ขี่ก็ต่างหลงรัก และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่เข้าถึงได้ง่าย โดยท่านที่สนใจรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ สามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ที่ เว็บไซต์ www.triumphmotorcycles.co.th รวมถึงช่องทางเฟซบุ๊ก www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand
tomcc.org / wikipedia.org / zabytkowemotocykleirowery.pl