fbpx

รวมศัพท์ประเภทรถยนต์ ที่พูดกันติดปาก แต่น้อยคนที่จะทราบความหมายที่แท้จริง ตอนที่ 2

ด้วยความหลากหลายทางด้านไลฟ์สไตล์ของผู้คน ทำให้รถยนต์ต้องตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์ของผู้คน และการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เราจึงมักจะได้ยินคำศัพท์ ที่เรียกประเภทรถ ที่พูดกันคุ้นชิน จนติดปาก Carvariety จึงหยิบยกคำเหล่านั้นมานำเสนอถึงความหมาย และประเภทรถที่แท้จริงเหล่านั้น ให้ผู้อ่านได้รู้จักกันอย่างถ่องแท้ เป็นตอนที่ 2

MPV (เอ็มพีวี) หรือ Multi Purpose Vehicle เป็นรถยนต์ที่เน้นความจุที่ห้องโดยสาร มีพื้นที่มาก ตั้งแต่ 6-11 ที่นั่ง มีพื้นฐานคล้ายรถแวน คือ ทรงยาว ท้ายตัด และมี 5 ประตู MPV มีหลายขนาดด้วยกันทั้ง Mini MPV Compact MPV ไปจนกระทั่ง Large MPV

Cabriolet (คาบริโอเลต) คือ รถเปิดประทุน ที่ใช้เรียกกันในฝั่ง อังกฤษ แต่ทางด้านฝั่งอเมริกัน จะเรียกรถเปิดประทุนว่า Convertible ซึ่งส่วนมากจะเป็นรถเปิดประทุนทั่วไป ที่มีเสาหลังคาเป็นรูปตัว U คว่ำ ส่วนรถสปอร์ตที่มีหลังคาเปิดประทุนจะใช้คำเรียกอีอย่างว่า Spider หรือ Spyder อย่าง Porsche และมีอีกหลายคำที่ใช้ในรถเปิดประทุน อย่าง Targa Roadster เป็นต้น

SUV (เอสยูวี) หรือ Sport Utility Vehicle ซึ่งหมายถึงรถอเนกประสงค์ ที่เน้นใช้งาน แต่ก็ยังคงความสวยงามแบบสปอร์ตไว้อยู่นั้นเอง นอกจากจะนั่งได้แบบสบายแล้ว ยังให้ความสมบุกสมบัน พร้อมลุย ส่วนมากมี 5 ประตู ด้านหลังสมารถขนสัมภาระได้จำนวนมาก เรียกได้ว่าซื้อคันเดียวตอบโจทย์ได้หลากหลายการใช้งานเลยทีเดียว

PPV (พีพีวี) หรือ Pick-Up Passanger Vehicle นั้นมีพื้นฐานมาจากรถกระบะ และถูกพัฒนามาเป็นรถอเนกประสงค์ แต่ใช้พื้นฐานโครงสร้างของรถกระบะนั้นเอง ส่วนใหญ่ออกแบบมาให้รองรับผู้โดยสารได้ 7 ที่นั่ง ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ต้องห่วงเรื่องความนุ่มนวนของช่วงล่างว่าจะแข็งเหมือนกระบะหรือเปล่า วางใจได้เลยว่า ผู้ผลิตนั้นได้ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ช่วงล่างให้เหมาะ สำหรับใช้เป็นรถโดยสาร ด้วยการเพิ่มความนุ่มนวลมากขึ้น

Liftback (ลิฟ์แบค) เป็นรถยนต์นั่งหรือรถเก๋งเหมือนกับ Sedan และ Coupe สิ่งที่ต่างกันคือ ฝากระโปรงหลังของ Lift back จะต่อเนื่องเป็นชิ้นเดียวกับกระจกบังลมหลัง เวลาที่เปิดฝากระโปรงหลังกระจกบังลมหลังก็จะถูกเปิดขึ้นด้วย ปัจจุบันรถประเภทนี้ไม่ค่อยมีให้เห็นเท่าไร


 

บทความที่น่าสนใจ

เจาะราคาน้ำมันไทย ทำไมถึงแพงกว่ามาเลเซียถึง 2 เท่า !!

Nopkung

Zeekr เปิดตัวแบตเตอรี่สุดอึด ทนความร้อนได้ถึง 1,000°C ชาร์จ 15 นาทีวิ่งไกล 500 กม.

Peng

ทำไม Ferrari ถึงต้องเป็นสีแดง และทำไมต้องมีตราสัญลักษณ์เป็นรูปม้า ??

Nopkung

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy