fbpx
Lamborghini

Lamborghini Huracán STO เผยโฉมคันจริงครั้งแรกในไทย ด้วยราคา 29.99 ล้านบาท

เผยโฉมคันจริง Lamborghini Huracán STO ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง Huracan GT3 EVO แชมป์ 3 ปีซ้อนจากรายการแข่งขัน 24 Hours of DAYTONA หนึ่งในการแข่งขันที่ยากและโหดที่สุดในโลก มาให้แฟนพันธุ์แท้ในไทยได้ยลโฉมเป็นครั้งแรก ด้วยราคา 29,990,000 บาท

Lamborghini Huracán STO – Super Trofeo Omologata : ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ล่าสุดที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง โดยแผนก Squadra Corse’s ที่วิจัยและพัฒนารถแข่งของทางค่ายอย่าง Huracán Super Trofeo EVO และ Huracán GT3 EVO ที่พิชิตชัยชนะจากรายการ 24 Hours of Daytona 3 สมัยและ 12 Hours of Sebring 2 สมัย ด้วยเครื่องยนต์ V10 แบบ NA ที่มอบพละกำลังสูง 640 แรงม้า และแรงบิด 565 นิวตันเมตร ส่งกำลังไปที่ล้อคู่หลัง ส่งผลให้ Huracán STO สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.0 วินาที และจาก 0-200 กม./ชม. ในเวลาเพียง 9.0 วินาที

ยิ่งไปกว่านั้น หัวใจหลักสำคัญของ Huracán STO นั้นคือหลักอากาศพลศาสตร์ของตัวรถที่สามารถจัดการกับอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดีไซน์ตัวถังที่ถูกออกแบบเพื่อสร้างแรงกดอากาศได้สูงและยังสามารถรีดอากาศออกจากตัวรถได้ดีในเวลาเดียวกัน พร้อมทั้งการนำวัสดุน้ำหนักเบามาใช้บนตัวรถเพื่อลดน้ำหนักสูงสุด ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงอารมณ์การขับขี่เสมือนรถแข่งได้อย่างแท้จริง

Huracán STO ได้รับการเปลี่ยนดีไซน์ภายนอกใหม่ เพื่อช่วยให้อากาศสามารถไหลผ่านตัวรถได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทุกรายละเอียดของ Huracán STO ได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ตและเดินตามปรัชญา “design always follows function” Huracán STO คือผลงานระหว่างการร่วมมือของแผนกวิจัยและพัฒนาของลัมโบร์กินี แผนกมอเตอร์สปอร์ต Squadra Corse และแผนกดีไซน์ Centro Stile ฟังก์ชั่นหลายส่วนของรถได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่งที่ทาง Squadra Corse ผลิตขึ้นมาและถูกนำมาใช้ใน Huracán STO

ชิ้นส่วนด้านหน้ามีการนำฝากระโปรงหน้า ซุ้มล้อ และกันชนหน้า ของตัวรถมาดีไซน์ใหม่ให้เป็นชิ้นเดียวกัน หรือเรียกว่าสไตล์ Cofango ทำให้ Huracán STO มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัว ดีไซน์ใหม่นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถในตำนานของค่ายอย่าง Lamborghini Miura และ Sesto Elemento นอกจากช่วยลดน้ำหนักของตัวรถแล้วยังช่วยเพิ่มความเป็นมอเตอร์สปอร์ตของตัวรถได้อย่างลงตัว ช่องดักอากาศบริเวณฝากระโปรงหน้าช่วยจัดระเบียบให้อากาศไหลเวียนผ่านตัวรถได้ดียิ่งขึ้น บริเวณด้านหน้าของ Huracán STO ได้ติดตั้งสปลิตเตอร์หน้าใหม่ที่มีช่องระบายอากาศไปยังใต้ท้องรถจนถึงดิฟฟิวเซอร์หลังที่ช่วยลดการต้านลมเมื่อต้องการทำความเร็วในทางตรง

ซุ้มล้อหลังของตัวรถถูกพัฒนามาจากรถแข่ง One Make Race อย่าง Super Trofeo EVO ช่วยให้ตัวรถลู่ลมมากยิ่งขึ้นและในขณะเดียวกันก็ยังสร้างแรงกดด้านท้ายของตัวรถ ส่งผลให้สมรรถนะของตัวรถทั้งทางตรงและทางโค้งมีประสิทธิภาพสูงเหมือนกับรถแข่งในสนาม ช่องดักอากาศ  NACA ที่ถูกติดตั้งบนซุ้มล้อหลังนั้นทำหน้าที่ดักอากาศเข้าไปในเครื่องยนต์ ซึ่งช่วยให้เครื่องยนต์สร้างพละกำลังได้อย่างต่อเนื่องแม้ในการขับขี่ด้วยความเร็วสูงเป็นเวลานาน 

ฝาเครื่องยนต์ของตัวรถได้รับการออกแบบใหม่และติดตั้งช่องดักอากาศด้านบนเพื่อช่วยระบายความร้อนในห้องเครื่องยนต์ บริเวณในห้องเครื่องได้รับการติดตั้งครีบลำเลียงอากาศ เพื่อการจัดสรรให้อากาศสามารถระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 

ครีบอากาศบริเวณฝากระโปรงหลังนั้นช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับ STO ในขณะเข้าโค้ง โดยอากาศจะถูกตัดผ่านและไหลไปที่สปอยเลอร์ด้านท้าย ส่งผลให้ตัวรถมีความนิ่งมากยิ่งขึ้นเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง 

สปอยเลอร์หลังของ Huracán STO สามารถปรับตั้งได้ 3 ระดับ เพื่อให้สมดุลตามแต่ละรูปแบบของสนามได้อย่างลงตัว พร้อมช่องดักอากาศเบรกหน้าใหม่ถูกดีไซน์เพื่อระบายความร้อนให้กับระบบเบรกแบบใหม่อย่าง CCM-R brakes ที่ถูกพัฒนาจากรถ F1 โดย Brembo

Huracán STO สามารถสร้างแรงกดได้สูงสุดในรถคลาสเดียวกันและยังมีบาลานซ์รถที่ดีที่สุดสำหรับรถขับเคลื่อนล้อหลังอีกด้วย Huracán STO มีประสิทธิภาพในการไหลเวียนของอากาศได้ดีขึ้นมากถึง 37% และสร้างยังสามารถแรงกดได้มากขึ้นถึง 53% เมื่อเทียบกับ Huracán Performante 

โครงสร้างภายนอกของ Huracán STO กว่า 75% ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อลดน้ำหนักตัวรถและเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวถังได้เป็นอย่างดี น้ำหนักตัวรถเปล่าเพียง 1,339 กิโลกรัม ซึ่งลดลงไปถึง 43 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับรุ่นพิเศษอย่าง Huracán Performante โดยกระจกบานหน้าของ Huracán STO เบาลง 20% เมื่อเทียบกับ Huracán Performante และยังมีออพชั่นเสริมอย่างล้อแม็กนิเซียมน้ำหนักเบา 

Huracán STO’s ได้รับการติดตั้งโหมดการขับขี่ใหม่ 3 โหมด: STO, Trofeo และ Pioggia โหมด STO ถูกปรับตั้งให้เหมาะสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันทั่วไปหรือบนถนนคดเคี้ยวในชนบท ระบบ Lamborghini Veicolo Dinamica Integrata (LDVI) ถูกนำมาติดตั้งเพื่อช่วยให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างราบรื่นและธรรมชาติยิ่งขึ้น ในโหมด Trofeo ตัวรถจะถูกตั้งค่าให้ตอบสนองกับการขับขี่บนสนามแข่งในพื้นผิวที่แห้ง

ระบบ LDVI จะคอยจัดสรรแรงบิดให้ไปที่ล้อที่มีแรงยึดเกาะสูงสุดซึ่งทำงานควบคู่กับระบบ performance traction control ของรถ อีกทั้งระบบ Brake Temperature Monitoring (BTM) ใหม่จะคอยแจ้งสถานะอุณหภูมิของเบรกแบบเรียลไทม์ และในโหมดการขับขี่ Pioggia นั้น ตัวรถจะคอยควบคุมให้ระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบกระจายแรงบิด ระบบเลี้ยวล้อหลัง และระบบเบรก ABS ให้เหมาะสมกับพื้นผิวถนนที่เปียก โดยระบบ LDVI จะทำการวิเคราะห์แรงยึดเกาะของรถเพื่อถ่ายกำลังแรงบิดไปที่ล้อสูงสุดโดยไม่ลื่นไถลในทางตรงและระบบกระจายแรงบิดจะทำการกระจายกำลังไปยังล้อที่มีแรงยึดเกาะสูงสุดในขณะกำลังเข้าโค้ง 

ระบบเบรกของ Huracán STO ได้รับการถ่ายทอดจากสนามแข่งอย่างแท้จริง ด้วยเทคโนโลยีจาก Brembo ระบบเบรก CCM-R ช่วยให้การหยุด Huracán STO ทำได้อย่างมั่นใจแม้จะถูกใช้งานอย่างต่อเนื่อง ระบบเบรก CCM-R สามารถทนความร้อนได้มากกว่าระบบเบรกเซรามิคทั่วไปถึง 4 เท่า และทนทานต่อการใช้งานในสนามมากขึ้นถึง 60% เมื่อผู้ขับขี่ต้องการทำเวลาต่อรอบในสนามแข่ง ระบบเบรก CCM-R นั้นยังเพิ่มขีดจำกัดของแรงเบรกมากขึ้นไปอีกถึง 25% ทำให้ระยะการเบรกลดลงถึง 7% 

การออกแบบภายในของ Huracán STO ได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตด้วยการนำเอาวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์มาใช้บริเวณแผงประตูภายใน เบาะแบบสปอร์ตพร้อมแผ่นหลังจากวัสดุคาร์บอน และนำเอาวัสดุอัลคันทาร่ามาใช้เพื่อให้สัมผัสที่กระชับมือยิ่งขึ้น พรมบริเวณพื้นรถถูกแทนที่ด้วยแผ่นอลูมิเนียมน้ำหนักเบา

ระบบเซฟตี้เบลท์ 4 จุดที่ยึดไว้กับคานไทเทเนียมด้านหลังเบาะที่พัฒนาร่วมกับ Akrapovic ถูกนำเข้ามาเพิ่มความปลอดภัยตามแบบฉบับรถแข่ง ฝากระโปรงหน้าของตัวรถถูกออกแบบใหม่ให้สามารถเก็บหมวกกันน็อคได้ทำให้ Huracán STO พร้อมที่จะเผชิญกับทุกสนามแข่ง ระบบ HMI ถูกพัฒนาจาก Huracan EVO เพื่อบอกค่าสำคัญต่างๆ ให้แก่ผู้ขับขี่เช่น การทำงานของระบบ LDVI รวมไปถึงอุณหภูมิของระบบเบรกอีกด้วย 

สำหรับราคาเริ่มต้นของ Lamborghini Huracán STO อยู่ที่ 29,990,000 บาท 


 

บทความที่น่าสนใจ

Ford Everest Platinum V6 เปิดราคาอย่างเป็นทางการในไทย 2,279,000 บาท มีจำกัดเพียง 350 คัน

Peng

ลือสนั่น Ranger รุ่นใหม่ มาเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ V6 กำลัง 325 แรงม้า

idiot

Audi Thailand เผยโฉม Audi A6 Avant ใหม่ พร้อมเปิดราคาสุดเซอร์ไพรส์ 4.999 ล้านบาท

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy