fbpx

BMW Xpo 2020 เดินหน้าอวดโฉมยนตรกรรมพรีเมียมทั้งสี่มุมเมืองตลอดสี่สัปดาห์

มหกรรมประจำปีสำหรับคนรักบีเอ็มดับเบิลยู BMW Xpo กลับมาอีกครั้งเพื่อมอบความตื่นตาตื่นใจด้วยข้อเสนอสุดพิเศษกับหลากหลายรุ่นรถยนต์ที่มีมาให้เลือกสรร ในรูปแบบที่ตอกย้ำที่สุดของพลังแห่งทางเลือกจากบีเอ็มดับเบิลยู

โดยปีนี้จะเป็นปีแรกที่ BMW Xpo ขยายพื้นที่การจัดแสดง ด้วยการออกเดินทางไปหาลูกค้าถึงที่ กับการยกขบวนรถยนต์ไปจัดงานทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑลถึง 4 แห่ง ตลอด 4 สัปดาห์ เพื่อมอบที่สุดของประสบการณ์แห่งยนตรกรรมระดับพรีเมียมให้แฟน ๆ และลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดมากกว่าที่เคย

สำหรับวันและสถานที่ในการจัดงาน BMW Xpo 2020 ในทั้ง 4 สัปดาห์ มีดังนี้:

  • BMW Xpo ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 วันที่ 10-13 กันยายน 2563
  • BMW Xpo ณ ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์และเอ็มโพเรียม วันที่ 17-20 กันยายน 2563
  • BMW Xpo ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า เวสต์เกต  วันที่ 24-27 กันยายน 2563
  • BMW Xpo ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว วันที่ 1-4 ตุลาคม 2563

สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าต่อไปด้วยความแข็งแกร่ง หลังจากที่ทั้งแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิต่างทำผลงานได้ดีกว่าสถิติช่วงครึ่งปีแรกของตลาดรถยนต์ในประเทศ ทั้งในภาพรวมและในเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียม

มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “โลกของเรากำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของเราตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็ยังคงเป็นปัจจัยบวกที่สนับสนุนให้เรายังฝ่าฟันอุปสรรคนี้ต่อไปได้ ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิกว่า 4,164 คัน ตลอดครึ่งแรกของปี 2563 หรือลดลง 24% เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งนับเป็นอัตราที่ดีกว่าตลาดในภาพรวมที่มียอดขายลดลง 41.5% ขณะที่ยอดขายของเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียมลดลงที่ 35.5% ความแข็งแกร่งนี้ทำให้ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์พรีเมียมของเราขยายตัวขึ้นเป็น 43.6% หรือคิดเป็นการเติบโตถึง 6% ในช่วงครึ่งปีแรก”

ความแข็งแกร่งนี้ยังสะท้อนต่อไปถึงบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ที่มียอดส่งมอบมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด 616 คันลดลงเล็กน้อยที่ 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่รถยนต์มือสองของบีเอ็มดับเบิลยูกลับทำผลงานสวนกระแสตลาด ด้วยยอดขายทั้งสิ้น 727 คัน สูงขึ้นถึง 15%

“เรายังคงมีความมุ่งมั่นที่แรงกล้าในการขับเคลื่อนนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าให้ก้าวสู่การเป็นมาตรฐานใหม่ แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ โดยภายในครึ่งแรกของปีนี้ เราได้เผยโฉมรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าจากทั้งแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิถึง 4 รุ่น ขณะที่โครงการ ChargeNow ยังขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่องกับแผนการเปิดให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะตลอดทั้งปี ปัจจุบัน เครือข่ายของ ChargeNow รวมทั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ผู้จำหน่ายของเรามีให้บริการทั้งหมด 141 หัวจ่ายใน 63 แห่งทั่วประเทศไทย ซึ่งทุกหัวจ่ายของเครือข่าย ChargeNow สามารถอัดประจุไฟฟ้าได้ทั้งรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าล้วนในทุกรุ่นและทุกแบรนด์ และคาดว่าจะสามารถขยายเครือข่ายทั้งหมดให้ก้าวสู่จำนวนรวม 150 หัวจ่ายได้ภายในปี 2563”

ด้วยยอดขายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูปลั๊กอินไฮบริดที่พุ่งสูงขึ้น บริษัทฯ จึงได้เห็นลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูและมินิเลือกติดตั้งตู้ชาร์จ i Wallbox ที่บ้านและสำนักงานของตนเอง รวมเป็นจำนวนกว่า 1,230 ตู้ นับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา ลูกค้านิยมติดตั้งตู้ชาร์จที่บ้านและที่ทำงานมากขึ้น เพราะสามารถใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าล้วนได้ในทุกๆ วัน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการติดตั้งตู้ชาร์จเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถติดตั้งตู้ชาร์จ i Wallbox ณ บ้านและสำนักงานของลูกค้าเพิ่มขึ้นรวม 1,840 จุดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้


 

บทความที่น่าสนใจ

“อีซูซุ เคียงคู่สู้วิกฤติ” มอบบริการหลังการขายสุดพิเศษให้กับลูกค้าอีซูซุ

idiot

Shell คว้าสองรางวัลจากงาน TAQA 2018 ตอกย้ำคุณภาพผลิตภัณฑ์ และความแข็งแกร่งของแบรนด์

idiot

อยู่บ้านก็สนุกได้! ฮอนด้า ชวนร่วมกิจกรรม STAY SAFE TOGETHER

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy